เหล่าบุคคลที่มีส่วนทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงความคิดต่อกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ซึ่งไม่เพียงแต่สำหรับสังคมไทย แต่ยังรวมไปถึงสังคมทั่วโลก
ก่อนจะลงมาทำงานการเมืองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ จากกรณีที่ภาพยนตร์เรื่อง แมลงรักในสวนหลังบ้าน (Insects in the Backyard) ถูกคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดิทัศน์สั่งห้ามฉายในปีพ.ศ. 2553 ด้วยเหตุผลว่าหนังของเธอมีการนำเสนอประเด็นของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศอย่างลึกซึ้งจนเกินไป และเธอต้องใช้เวลาในการต่อสู้อยู่เกือบทศวรรษกว่าภาพยนตร์จะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เมื่อปีพ.ศ. 2560
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นั้นจะยิ่งจุดประกายให้เธออยากที่จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่เธอรัก และกระโจนลงสู่สนามที่ใหญ่ขึ้นอย่างสนามการเมือง ด้วยความหวังจะเปลี่ยนแปลงสังคมในภาพกว้าง
"เราไม่ควรตีกรอบให้ใครเป็นอะไรจากรสนิยมหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเขา"
ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กอล์ฟตั้งเป้าหมายว่าอยากจะแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ที่ว่าด้วยการสมรส จากระหว่างเพศชายกับเพศหญิงให้กลายเป็นการสมรสระหว่างบุคคลกับบุคคล ไม่เกี่ยวว่าจะมีรสนิยมทางเพศอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างจากการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องพ.ร.บ.คู่ชีวิตในช่วงก่อนหน้านี้
“เราขอบคุณคณะทำงานทั้งหน่วยงานภาครัฐนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศที่ช่วยกันผลักดันพ.ร.บ.คู่ชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นนะ เพราะมันทำให้สังคมได้เห็นว่ากลุ่มคนหลากหลายทางเพศมีตัวตนและมีความสำคัญ ช่วยให้สิทธิของเราก้าวหน้าขึ้นจริงๆ แต่เราแค่คิดว่ามันยังไม่ใช่ทำไมเราไม่ได้ใช้กฎหมายตัวเดียวกันกับผู้หญิง-ผู้ชายล่ะ ในเมื่อเราก็เป็นมนุษย์ไม่ต่างกัน” เธอแสดงความเห็น
กอล์ฟยังมองว่าการที่เธอเป็นที่รู้จักในสังคมมากขึ้นก็เป็นโอกาสดีที่เธอจะได้แสดงให้คนหมู่มากเห็นว่า ในความหลากหลายทางเพศมันก็ยังมีความลื่นใหลทางเพศอยู่ ยังมีเฉดสีที่มากมาย และเมื่อถามว่าโลกในอุดมคติสำหรับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศของกอล์ฟเป็นอย่างไร กอล์ฟตอบว่าคือ ‘โลกที่ไม่มีเพศ’ ทุกคนควรได้รับสิทธิที่เป็นอะไรก็ได้ในแบบที่ชอบ โดยไม่ต้องมีคำจำกัดความ เพื่อแบ่งกลุ่มใดๆ
“ถ้าเรายิ่งพยายามหาคำจำกัดความมาเพื่อแบ่งประเภท มันก็จะไม่มีวันจบ เราไม่ควรจะมานั่งตีกรอบให้ใครเป็นอะไรจากรสนิยมหรือรูปลักษณ์ภายนอกของเขา แต่ให้มองกันด้วยคุณค่าข้างใน และเราจะต่อสู้ด้วยความเชื่อนี้จนกว่าโลกนี้จะไม่มีเพศ”
นอกจากนี้เธอก็อยากจะผลักดันด้านศิลปะวัฒนธรรม ให้การแสดงออกทางความคิด การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ไม่ถูกจำกัดเสรีภาพ ด้วยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ที่เธอมี โดยเธอก็ได้ทยอยเคลียร์งานด้านการกำกับ เพื่อจะได้เอาเวลามาทุ่มให้กับการเป็นส.ส.อย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็คงต้องฝากความหวังว่าจะได้เห็นประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในช่วงสมัยที่เธอทำงาน