ความรักของคุณหมอจองซูฮยอน (ควอนซูฮยอน) และนักเชลโลเอียนพัค (คิมโดยอน) ในตอนที่ 5 ของซีรีส์เรียกน้ำตาแห่งปี Move to Heaven ที่เล่าเรื่องบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุและความทรงจำของคนที่จากไป เป็นอีกตอนทำเอาหลายคนน้ำตาซึมกับความรักของสองหนุ่ม
“ตั้งแต่เราพบกัน พี่เฝ้ารอให้วันพรุ่งนี้มาถึงเป็นครั้งแรก” ฮันกือรูเปล่งเสียงประโยคที่คุณหมอจองซูฮยอนเตรียมไว้จะบอกเอียนในวันที่ทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้ง
แต่ไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับจองซูฮยอน กว่าที่เขาจะกล้าออกจากขนบสังคม ชีวิตของเขากลับต้องจบลงอย่างกระทันหันก่อนอะไรๆ จะคลี่คลาย ทิ้งความทรงจำไว้เบื้องหลังให้บริษัท Move to Heaven เก็บกวาดและส่งต่อ
คุณหมอจองซูแฮอยอนก็เหมือนกับผู้ชายในสังคมเอเชียตะวันออกหลายคนที่ต้องปิดบังตัวตนตามกรอบของสังคม โดยเฉพาะเขาที่มาจากครอบครัวนายทหารระดับสูง และการจะรวบรวมความกล้าแหกออกจากขนบไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายสำหรับทุกคน แค่จะจับมืออีกคนในที่สาธารณะบางคนก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าอีกคนแล้ว
จองซูฮอยอน ในมุมนึงก็เหมือน ฮันกือรู (แสดงโดย ทังจุนซัง) ตัวละครหลักของ Move to Heaven ที่ทุกคนรัก เพราะกือรูก็เกิดและเติบโตมาพร้อมกับอาการแอสเพอร์เกอร์ (Asperger’s syndrome) หรือความบกพร่องในการเข้าใจและแสดงออกความรู้สึก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความ “ปกติ” ที่สังคมเข้าใจ
แต่การที่เขาเติบโตขึ้นท่ามกลางความรักที่ได้รับจากพ่อและแม่อย่างไม่มีเงื่อนไข ความรักสำหรับกือรูเลยเป็นสิ่ง “พื้นฐาน” ที่เป็นความปกติ บวกกับแอสเพอร์เกอร์ที่ทำให้เขาไม่เข้าใจขนบร้อยแปดที่ตีกรอบรูปแบบของความรัก—ในสายตาของเขา ความรักไม่ว่าจะในรูปแบบไหนหรือระหว่างใครก็เป็นสิ่งสวยงามทั้งนั้น
ถ้าทุกคนสามารถมองเห็นความรักในปราศจากกรอบทางสังคมอย่างที่กือรูมองก็คงจะดี เพราะจะได้ไม่ต้องมีใครต้องรอถึงพรุ่งนี้เพื่อที่จะบอกรัก