เหล่าบุคคลที่มีส่วนทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงความคิดต่อกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ซึ่งไม่เพียงแต่สำหรับสังคมไทย แต่ยังรวมไปถึงสังคมทั่วโลก
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้เห็นอดีตนักแสดงเด็กและทายาทสหมงคลฟิล์ม เกรซ-นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ ผ่านหูผ่านตามาบ้างบนจอภาพยนตร์หลายเรื่อง อย่างเช่น เอ๋อเหรอ (2548) ข้าวเหนียวหมูปิ้ง (2549) และ ไฉไล (2549) ซึ่งหลังจากภาพยนตร์เหล่านี้เกรซก็ไม่ได้ปรากฏตัวผ่านสื่อเป็นระยะเวลานาน ก่อนจะเป็นที่พูดถึงบนโลกอินเตอร์เน็ตอีกครั้งเมื่อเขาโพสต์ภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว ขอบคุณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำหรับการอนุญาตให้เขาใส่ชุดรับปริญญาของผู้ชายเข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตรได้
นี่นับเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของไทยอย่างจุฬาฯ ยอมให้หนุ่มข้ามเพศแต่งกายตามเพศวิถีเข้ารับปริญญาบัตร โดยที่ผ่านมาเคยมีแต่สาวข้ามเพศเท่านั้นที่ใส่ชุดรับปริญญาตามเพศวิถี และเกรซคือคนที่ได้รับโอกาสในครั้งแรกนี้ไป
“ตอนนั้นถ้าถามว่าจำเป็นที่จะต้องใส่ให้ได้ไหม สำหรับเกรซรู้สึกว่าจำเป็นแหละ เพราะเกรซคงจะไม่สบายใจถ้าต้องใส่ชุดรับปริญญาของผู้หญิง ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว เกรซไม่คิดว่ามันจะเกิดทำให้ทุกคนอยากทำตามเราขึ้นมา แล้วในระหว่างกระบวนการทำเรื่องขอมันก็ทำให้เราได้รู้ว่าสังคมหรือมหาวิทยาลัยเปิดกว้างกับเรื่องนี้มากขึ้น” เกรซเล่าถึงเหตุผล หลังจากที่เรื่องการแต่งกายครั้งนี้ของเขาได้กลายเป็นไวรัล และได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งกลุ่มคนหลากหลายทางเพศและคนทั่วไป
"เราไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น"
เกรซบอกว่าเขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ LGBTQ ในประเทศไทยไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เขารู้สึกเช่นกันว่าในแง่ของกฎหมายนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก ซึ่งถือว่าช้าสำหรับเขาเมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวของประเทศอื่นๆ
“เกรซคิดว่ากฎหมายน่าจะให้สิทธิเราเท่ากับคนอื่นได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อนำหน้าหรือการแต่งงานกับคนเพศเดียวกัน แต่เกรซก็เข้าใจแหละว่าในประเทศไทยตอนนี้มันยังมีเรื่องน่าปวดหัวอย่างอื่นให้รีบทำมากกว่าประเด็นเรื่องเพศ”
ส่วนตอนนี้เกรซบอกว่าขอโฟกัสที่การทำทุกวันของตัวเองให้ดีที่สุดก่อนอย่างอื่น ไม่ได้อยากเคลื่อนไหวอะไรมากกว่านี้ แต่ก็ให้คำปรึกษาทางข้อความกับรุ่นน้องที่อยากทำเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ และคิดว่าการพยายามแก้ไขความเข้าใจแบบผิดที่หลายคนมีน่าจะเป็นทางดีง่ายกว่าการออกไปต่อสู้เคลื่อนไหว
“ถ้าเราเป็นคนดี ตั้งใจทำงานทำหน้าที่เรา คนอื่นก็จะรู้เองว่าเราไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น” เกรซทิ้งท้าย