[title]
คอหนังไซไฟเตรียมสติให้พร้อม เจ้าพ่อหนังไซไฟชาวฝรั่งเศส ลุค เบสซง เจ้าของผลงานภาพยนตร์วิช่วลที่ตื่นตาตื่นใจอย่าง Leon: The Professional, The Fifth Element (ที่ครบรอบ 20 ปีพอดีในปีนี้) และ Lucy พร้อมกลับมากับหนังฟอร์มใหญ่ที่หลายคนรอคอย Valerian and the City of a Thousand Planets ที่กำลังจะเข้าฉายในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ และแน่นอนว่าผู้กำกับสไตล์ Cinema du Look (สไตล์หนังฝรั่งเศสช่วงปี 1980s ที่เน้นความสวยงามตระการตา) ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน!
เดินทางไปสู่ศตวรรษที่ 28 กับ วาเลเรียน (เดน เดอฮาน) และ ลอเรลลีน (คาร่า เดอลาวีญ) คู่หูเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการพิเศษขององค์การปกครองเขตแดนมนุษยชาติ สังกัดกระทรวงความมั่นคง ผู้ทำหน้าที่พิทักษ์สันติสุขให้กับประชาชนทั่วจักรวาล ทั้งสองได้รับมอบหมายให้เดินทางไป อัลฟ่า มหานครอันเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์ในจักรวาลที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ที่ซึ่งมีภัยร้ายแอบแฝงอยู่ในความมืดและพร้อมทำลายความสงบสุขของดวงดาวและทุกชีวิตในจักรวาล
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนไซไฟระดับตำนานของฝรั่งเศส Valerian and Laureline ของ ปิแอร์ กิสแสตง และ ฌอง โคลด เมซิแอร์ ซึ่งออกตีพิมพ์ระหว่างปี 1967-2010 โดยตัวภาพยนตร์จะเน้นไปที่ Ambassador of the Shadows การ์ตูนเล่มที่ 6 จากทั้งหมด 21 เล่มของซีรีส์ "ถ้าคุณได้อ่านเล่มนี้ ก็จะรู้ว่ามันเล่าเรื่องเหมือนหนังมาก... แถมเนื้อเรื่องยังให้คุณได้ใช้จินตนาการมากที่สุด เพราะมีเอเลี่ยนจำนวนนับไม่ถ้วน ผมเลยคิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสกล่าว
นอกจากผู้กำกับลุค เบสซง จะเป็นแฟนของการ์ตูนเล่มนี้มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เขายังมีโอกาสได้ทำงานกับ ฌอง โคลด เมซิแอร์ หนึ่งในผู้สร้างสรรค์การ์ตูนเล่มนี้เมื่อครั้งทั้งสองได้ร่วมงานกันในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Element ตอนนั้นฌองเปรยกับผู้กำกับลุค ว่าทำไมเขาจึงไม่ทำ Valerian เป็นหนังสักที "ผมยังสร้างไม่ได้หรอก เพราะมันมีตัวละครที่เป็นมนุษย์แค่ไม่กี่คน ส่วนที่เหลือล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นๆ ตั้งกว่า 1,000 ตัวหมดเลย" ลุคเล่าย้อนถึงคำตอบในวันนั้น "แต่หลังจากที่ Avatar ออกมา ผมคิดว่าทุกอย่างเป็นไปได้ จนในที่สุดวันนี้ เราก็สร้างมันขึ้นมาได้จนสำเร็จ"
คู่หูตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้อย่าง วาเลเรียน และ ลอเรลลีน รับบทโดยนักแสดง เดน เดอฮาน และ คาร่า เดอลาวีญ โดยเดน เดอฮาน นั้นโด่งดังมาจากบทตัวร้ายสุดกวน แฮร์รี่ ออสบอร์น คู่ปรับของ สไปเดอร์แมน ใน The Amazing Spider-Man 2 (เวอร์ชั่น แอนดรูว์ การ์ฟีลด์) และการสวมบทนักแสดงในตำนาน เจมส์ ดีน ในภาพยนตร์อัตชีวประวัติเรื่อง Life ส่วนสาวคาร่าคือนางแบบสาวค่าตัวแพงแห่งยุคที่หันมาจับงานการแสดงอย่างเต็มตัว และได้แสดงฝีมือในบท มาร์โก ร็อธ สปีเกิลแมน สาวน้อยแห่ง Paper Towns และบทวายร้ายสุดเซ็กซี่ จูน มูน (เดอะ แอ็นชานเทรส) ในหนังรวมดาวร้าย Suicide Squad ที่เข้าฉายไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
"วาเลเรียนคือเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษที่ปกป้องอวกาศและห้วงเวลา เขาเป็นวีรบุรุษตามแบบแผน มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ กล้าหาญ และแข็งแกร่ง แต่บางทีก็ขี้เก๊กไปนิด วาเลเรียนมีสัญชาตญาณในการวางแผน เขาเป็นทหารชั้นยอดที่ทุ่มเทสุดตัวเพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จ" เดนกล่าวถึงตัวละครของเขา “ไม่ใช่ทุกคนจะเคยได้ยินหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ [ดังนั้น]สิ่งที่เจ๋งคือเราสามารถทำอะไรออกมาได้แบบที่อยากทำ แถมเราไม่ได้ใช้ระบบแบบสตูดิโอภาพยนตร์สไตล์อเมริกัน ซึ่งการตัดสินใจแต่ละอย่างต้องผ่านคณะกรรมการนับสิบคน ในขณะที่หนังเรื่องนี้คือจินตนาการของ ลุค เพียงคนเดียว”
"ฉันเล่นเป็น ลอเรลลีน อัจฉริยะผู้มีสติปัญญาระดับสุดยอด เธอมุ่งมั่น แกร่ง และเด็ดเดี่ยว ฉันว่าทั้งลอเรลลีนและวาเลเรียนคือคู่หูที่เพอร์เฟ็ค บางครั้งเราอาจจะทะเลาะกันบ่อยไปหน่อย แต่ว่าเราขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้หรอก" คาร่ากล่าว ในเรื่องนี้เธอยังต้องฟิตหุ่นเพื่อเล่นฉากแอ็กชั่นเองอีกด้วย "ตอนที่รู้ว่าฉันเลือกที่จะเล่นเองได้แทนที่จะใช้สตั๊นท์ ฉันเอาแต่พูดว่า... ให้ฉันเล่นเองเถอะนะ จับฉันเหวี่ยงอัดกำแพงก็ได้ ฉันชอบ!"
นอกเหนือจาก เดนและคาร่าแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้นักแสดงชั้นนำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไคลฟ์ โอเว่น (จาก Closer, Sin City และ Children of Men) ในบทผู้บัญชาการ อารูน ฟิลิตต์ นักร้องสาวชื่อดัง ริฮันน่า ในบทนักแสดงสาวผู้มีความสามารถในการแปลงร่าง รวมไปถึง คริส วู อดีตสมาชิกวง EXO (ที่เคยฝากผลงานในแวดวงฮอลลีวู้ดในเรื่อง xXx: The Return of Xander Cage ร่วมกับ วิน ดีเซล) ที่มาร่วมแสดงอีกด้วย
5 สิ่งที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ Valerian and the City of a Thousand Planets
(1) มหานครอัลฟ่าแท้จริงแล้วคือสถานีอวกาศขนาดยักษ์
มหานครแห่งดวงดาวนับพันดวงในความคิดของลุค จริงๆ แล้วเป็นสถานีอวกาศที่เกิดขึ้นมานับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970s (โดยเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการอพอลโล่ของอเมริกา และโครงการโซยุสของรัสเซีย รวมถึงยุโรปและจีนในเวลาต่อมา) โดยเอเลี่ยนกลุ่มแรกเดินทางมาถึงอัลฟ่าในปี 2020 และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ยานลำนี้กลายเป็นศูนย์รวมของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ทั่วจักรวาล สถานีอวกาศแห่งนี้เป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิต 3,000 ชนิด รวมกันแล้วกว่า 18 ล้านชีวิต
(2) ยานอินทรูเดอร์คือแรงบันดาลใจของยานของ ฮาน โซโล
หนึ่งในพระเอกของเรื่องคือ ยานอินทรูเดอร์ หรือ Astroship XB982 ของวาเลเรียนและลอเรลลีน ซึ่งสามารถเดินทางไปทั่วอวกาศและท่องไปตามกาลเวลาไปยังอดีตหรืออนาคตได้ไกลถึง 30 ศตวรรษ ยานอินทรูเดอร์ลำนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ยานมิลเลนเนียม ฟัลคอล ยานพาหนะคู่ใจของ ฮาน โซโล ในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ไซไฟสุดฮิตตลอดกาลอย่าง Star Wars อีกด้วย
(3) หนังเรื่องนี้มีช็อตที่ใช้เทคนิคพิเศษมากถึง 2,734 ช็อต
ถ้าคุณคิดว่าหนังไซไฟในตำนานอีกเรื่องหนึ่งของลุคอย่าง The Fifth Element เจ๋งแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนั้นใช้เทคนิคพิเศษเพียง 180 ช็อตเท่านั้น เทียบกับ Valerian ที่ได้ 3 บริษัทดิจิตัลอาร์ตยักษ์ใหญ่ Weta Digital, Industrial Light & Magic และ Rodeo FX (บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังฉากสุดอลังการของ Avatar, Lord of the Rings, Avengers: Age of Ultron และ Star Wars: The Force Awakens) มาสร้างสรรค์สเปเชียลเอฟเฟ็กต์เกือบ 3,000 ช็อต แถมด้วยนักเรียนจากโรงเรียนภาพยนตร์ปารีส ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของลุคกว่า 50 คนมาช่วยทำคอนเซ็ปต์อาร์ต สตอรี่บอร์ด และวีดิโอเดโม่
(4) ภารกิจแรกในเรื่องเกิดขึ้นบน ดาวเคียเรียน
ดาวสีสันสดใสแห่งนี้อยู่ห่างจากโลกไป 19 ปีแสง โดยมีสถานที่สำคัญเป็น "ตลาดขนาดยักษ์" ตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวาล และมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้านบนพื้นที่ 500 ชั้น แถมบางร้านยังซ่อนตัวในมิติลี้ลับ และจำเป็นต้องใส่แว่นพิเศษเพื่อมองเห็น และต้องใช้โค้ดดีเอ็นเอในการจับจ่ายซื้อของ
(5) เป้าหมายของการโจมตีคือชาวเพิร์ล
ถึงแม้จะมีสิ่งมีชีวิตหลากหลายเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น โบรโมซอว์ส (อสูรกายแห่งท้องทะเล) โอมิไลท์ส (สายพันธุ์ที่ผสมผู้เชี่ยวชาญดานเทคโนโลยี) และ คอร์ตาน ดาร์ฮุค (ชนเผ่าผู้หลงใหลในศิลปะ) แล้ว สายพันธุ์ที่กำลังถูกภัยร้ายคุกคามคือ เพิร์ล สิ่งมีชีวิตผิวขาว ที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่างที่เราเห็นในตัวอย่างภาพยนตร์ไปแล้ว พวกเขานี่แหละที่หวังพึ่งความช่วยเหลือจาก วาเลเรียน และลอเรลลีน ให้พาพวกเขารอดพ้นจากภัยคุกคาม ก่อนที่จักรวาลจะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่านี้
Valerian and the City of a Thousand Planets เข้าฉายวันที่ 20 กรกฎาคม
(ขอขอบคุณข้อมูลจาก สหมงคลอินเตอร์เนชั่นแนล)