[title]
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะมีความสุขกับการชม LANY Live in Bangkok ไปแล้วเมื่อคืนก่อน ซึ่งวันก่อนที่จะมีคอนเสิร์ตนั้น เราได้มีโอกาสไปนั่งพูดคุยกับ 3 หนุ่มสุดฮ็อต Paul Klein, Les Priest และ Jake Goss ที่มาในลุคแบบชิลๆ เสื้อยืด กางเกง และรองเท้าผ้าใบ พร้อมมาพูดคุยเกี่ยวกับวงของพวกเขากัน
![](https://media.timeout.com/images/103948949/image.jpg)
Credit: bettersweather/Tumblr
เริ่มด้วยคำถามง่ายๆ อย่างการให้วงบอกว่าเพลงของตัวเองเป็นแนวเพลงอะไร ซึ่งคำตอบจาก Paul ก็คือ Indie pop เพราะอินดี้มันสามารถเป็นตัวแทนของเพลงของพวกเขาได้ เพราะวงทำเพลงเอง แต่งเอง อัดเองกันในวง เพลงมันมาจากพวกเราเอง มันก็เลยจะมีความรู้สึกที่ independent เป็นอิสระมาก และมันก็เป็นเพลงป็อบด้วยเพราะมันมีท่อนร้อง มีคอร์ด จังหวะต่างๆ ที่เหมือนเพลงป็อบ
และเมื่อถามถึงความรู้สึกที่คอนเสิร์ตในประเทศไทยบัตรขายหมดในเวลาแค่ 10 นาที จนต้องมีการเปลี่ยนไปยังสถานที่ที่ใหญ่กว่า พวกเขาก็ตอบว่ารู้สึกเป็นเกียรติมาก และไม่ได้คาดหวังเลยว่า LANY จะมีโชว์ที่ Sold out ในกรุงเทพฯ แบบนี้ มันไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว พวกเขาทำงานกันหนักมาก เพื่อคนที่เห็นคุณค่าของงานของ มันเหมือนกับเป็นรางวัลเลย แถมยังเป็นความรู้สึกที่เหมือนฝันมาก เมื่อคิดว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว วงมีแค่เพลงบนอินเตอร์เน็ต แต่ตอนนี้แฟนๆ ในประเทศต่างๆ รู้จักเพลงของพวกเขา
Paul ยังบอกแบบขำๆ ด้วยว่านี่เป็น press conference ครั้งแรก แถมด้วย Jake ที่บอกว่ามันทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐเลย
![](https://media.timeout.com/images/103948943/image.jpg)
เมื่อถามว่าอยากจะทำเพลงร่วมกับใครอีก แต่ละคนก็มีคำตอบที่แตกต่างกัน Paul ตอบว่า Frank Ocean Les เลือก Michel Jackson แต่ก็ยังบอกอีกว่าคงไม่มีโอกาสแล้ว ส่วน Jake อยากร่วมงานกับ Kevin Parker ของ Tame Impala
นี่เป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ ของ LANY ช่วยให้ 3 คำที่สื่อถึงกรุงเทพฯ หน่อย ... Paul ตอบ Hot Les ตอบ Tropical Jake ตอบ Cultured
ตอนนี้เราอยู่ในยุคของเพลงสตรีมมิ่ง ดังนั้นเมื่อถามถึงเรื่องนี้ LANY ก็มีคำตอบที่ทำให้เราเห็นด้วยที่ว่า มันน่าสนใจที่เห็นความหลงใหลของเราที่มีต่อสิ่งของที่จับต้องได้ในยุคดิจิตัลแบบนี้ ผมว่าเราไม่สามารถเอาความรู้สึกที่อยากจะสัมผัสสิ่งของบางอย่างออกไปได้แน่นอน ผมคิดว่าตอนนี้ดนตรีมันไปไกลมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน คนฟังเพลงกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นเพลงสตรีมมิ่งไม่ได้ทำให้เราหมดกำลังใจจากพวกตัวเงินที่เจ้าของสตรีมมิ่งให้เราหรือศิลปินอื่นๆ เลย เพราะเราคงไม่สามารถมาอยู่ที่กรุงเทพฯได้ ถ้าไม่มีเพลงสตรีมมิ่ง
![](https://media.timeout.com/images/103948947/image.jpg)
ส่วนเรื่องโซเชี่ยลมีเดียกับชีวิตส่วนตัว Paul ก็ให้คำตอบมาว่า ยิ่งดังเท่าไหร่ เรายิ่งต้องเสียสละมากเท่านั้น มันเหมือนกับเป็นราคาที่ต้องจ่ายและมันก็คุ้มค่า LANY เป็นกลุ่ม 3 คนและก็คุยกันว่าจะจัดการพวกโซเชี่ยลมีเดียกันยังไง แต่เขาคิดว่าการที่มีแอคเค้าท์บนโซเชียลมีเดียในฐานะวง มันสร้างความใกล้ชิดให้กับแฟนๆ การให้แฟนๆ เห็นเบื้องหลังการทำงานหรืออัพเดตต่างๆ คือสิ่งที่ทุกคนชอบ และเมื่อผู้คนรักคุณและรักเพลงของคุณและรักในตัวตนของคุณ มันจะยิ่งทำให้แฟนๆ รักคุณมากยิ่งขึ้น เหมือนกับที่ Paul เติบโตมากับ John Mayer และ Coldplay
สุดท้ายนี้ LANY อยากบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง ... “แฟนชาวไทย พวกเรารักคุณมาก ขอบคุณที่ฟังเพลงของพวกเรา มันมีความหมายมากๆ พวกเราตื่นเต้นที่จะได้เล่นให้ทุกคนฟัง” คือสิ่งที่ Paul และ LANY อยากบอก
![](https://media.timeout.com/images/103948945/image.jpg)
![](https://media.timeout.com/images/103948946/image.jpg)
ขอบคุณรูปภาพจาก Universal Music (Thailand)