[title]
หลังจากร้านบาร์บีคิว Smokin’ Pug ได้ย้ายออกจากถนนสุรวงศ์ไปเปิดร้านที่ใหญ่กว่าที่ซอยหลังสวน ที่นี่ก็ดูเงียบเหงาลงไปหน่อย แต่เรายังโชคดีที่ตอนนี้พื้นที่ว่างได้ถูกจับจองด้วยบาร์แห่งใหม่อย่าง The 88 ที่เน้นค็อกเทลสไตล์อเมริกัน
The 88 แห่งนี้ตั้งอยู่ที่อาคารเลขที่ 88 ซึ่งทางบาร์ก็ยังเก็บความเป็น Smokin’ Pug เอาไว้ด้วยการใช้การตกแต่งเดิมไม่ว่าจะเป็นอิฐและผนังปูนเปลือย แต่ก็ยังเติมความแปลกใหม่ลงไปด้วยการใช้สัญลักษณ์ไฟนีออนที่เป็นชื่อร้านและส่วนชั้นวางเหล้าขนาดใหญ่
บาร์เทนเดอร์ส่งตรงมาจากนิวยอร์คอย่าง Eric Stephenson ได้นำค็อกเทลแบบอเมริกันซึ่งจะเน้นที่รสชาติมากกว่าการตกแต่งแต่ละแก้วมาเป็นตัวหลักของบาร์เมนูแบ่งออกเป็น 4 ส่วนตามเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มแต่ละชนิด เช่น เปรี้ยว, คาร์บอเนต, ทรอปิคัล และอโรม่า (ค็อกเทลที่มีส่วนผสมอย่าง Vermouth) รวมถึงพวกค็อกเทลคลาสสิคที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและค็อกเทลที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง (เช่น Penicillin และ Jungle Bird จากมาเลเซียอีกด้วย)
เครื่องดื่มหายากอย่าง Yacht Club เป็นการปรับสูตรดั้งเดิมของ David Embury ที่รวมรัม Diplomatico เฮ้าส์เบลนเวอร์มุธ (ส่วนผสมระหว่างเวอร์มุธเชอร์รี่เบสและคลาสสิคไวท์) ลิเคียวร์แอพพริคอตและบิตเตอร์ Angostura (400 บาท) ส่วน Rose Petal เป็นเครื่องดื่มที่ผสมระหว่างความเป็นดอกไม้และความซ่าเข้ากับดรายจินราสพ์เบอร์รี่ พีช เลมอน ไข่ขาว เอสเซนส์กุหลาบ และสปาร์กลิ้งไวน์ (360 บาท) ส่วนค็อกเทลคลาสสิคที่มีเตกีลาเป็นเบสอย่าง Infante ผสมด้วยเหล้าเมสคาลและเฮ้าส์เมดออจีทไซรัป (หรือเรียกง่ายๆ ว่าไซรัปซอลท์อัลมอนด์) ที่รวมกันออกมาได้รสชาติถั่ว (380 บาท) นอกจากค็อกเทลคลาสสิคที่เสิร์ฟที่บาร์หลักแล้ว ชั้นสองของร้านจะถูกปรับเป็นบาร์ขนาด 22 ที่นั่งที่จะเน้นไปที่ค็อกเทลสุดอลังการและแปลกใหม่ที่จะทำให้ทุกคนอ้าปากค้างแน่นอน
ส่วนใครที่หิวไม่ต้องกังวลไป เพราะร้าน The 88 ยังเสิร์ฟอาหารกินเล่นด้วย เช่น นักเก็ตไก่ซอสบัฟฟาโล่เสิร์ฟคู่กับซอสบลูชีส (280 บาท) มันหวานทอด (220 บาท) และสเต๊กเนื้อวากิวกับน้ำจิ้มแจ่ว (600 บาท)