1. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  2. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  3. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  4. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  5. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  6. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  7. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  8. Kodo Bar
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn

รีวิว

Kōdō

3 จาก 5 ดาว
ค็อกเทลบาร์ฟีลญี่ปุ่นบนถนนบรรทัดทองที่ชูเรื่องกลิ่นหอมจากวัตถุดิบหลากหลาย ตั้งแต่ดอกไม้ ผลไม้ น้ำหอม ไปจนถึงไม้หอม
  • Bars | ค็อกเทลบาร์
  • สยาม
  • แนะนำ
Suriyan Panomai
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

Kōdō เป็นค็อกเทลบาร์ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มเพื่อน 7 คนจากหลากหลายอาชีพที่ชื่นชอบการดื่มค็อกเทลหรือจะเรียกว่าเป็นกลุ่มเพื่อน bar hopper ก็ได้ บวกกับความสนใจในวัฒนธรรมหลายๆ อย่างของญี่ปุ่น ทุกคนเลยรวมตัวกันเปิดค็อกเทลบาร์ที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นๆ โดยการตกแต่งร้านจะเน้นความเรียบง่าย คุมโทนสบายๆ ด้วยการใช้ไม้สีน้ำตาลอ่อนเป็นหลัก 

จุดเด่นของค็อกเทลที่นี่คือเรื่องกลิ่นที่ได้จากวัตถุดิบและส่วนผสมที่มีกลิ่นหอมโดดเด่น มีตั้งแต่กลิ่นที่เราคุ้นเคยอย่างกลิ่นดอกไม้และผลไม้หลากหลายชนิด ไปจนถึงกลิ่นหอมที่มาจาก edible perfume และไม้หอม โดยชื่อร้าน Kōdō (โคโด) แปลว่า ทางของควัน, ทางของกลิ่น ซึ่งบ่งบอกคอนเซ็ปต์การชูเรื่องกลิ่นของบาร์ใหม่แห่งนี้ได้อย่างดี

แก้วขายดีคือ Chamchuri / จามจุรี (320 บาท) ค็อกเทลเบสจินที่ตั้งชื่อตามต้นไม้ประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยา ที่มีดอกสีชมพู แก้วนี้รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานดื่มง่าย มีกลิ่นหอมของเกรปฟรุ้ตและลิ้นจี่ เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มดื่มค็อกเทลหรือคนที่ต้องการเปิดแบบเบาๆ ก่อน

อย่างที่บอกว่ากลุ่มเจ้าของบาร์ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่นี่เลยมีค็อกเทลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความเป็นญี่ปุ่นด้วย เช่น Grandma’s Hot Tea (370 บาท) ค็อกเทลเสิร์ฟอุ่นที่ไม่ค่อยมีให้เห็น แก้วนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากสาเกเสิร์ฟอุ่นของญี่ปุ่น แต่จะใช้เบสเป็นวอดกาแทน เพิ่มเลม่อนและขิงเข้าไปจะได้รสชาติเปรี้ยวอมหวานและเผ็ดหน่อยๆ แต่รวมๆ แล้วดื่มง่าย เสิร์ฟมาในกาน้ำชาพร้อมจอกเล็กๆ อุณหภูมิของค็อกเทลจะอยู่ที่ประมาณ 60 องศาเซลเซียส อุ่นกำลังดีและไม่ทำให้แอลกอฮอล์ระเหย

อีกแก้วที่นำเสนอความเป็นญี่ปุ่นคือ Geisha’s Kiss (360 บาท) ทวิสต์มาจาก New York Sour โดยใช้วิสกี้ญี่ปุ่นแทนเบอร์เบิน เพิ่มความเป็นญี่ปุ่นด้วยไซรัปซากุระและท็อปด้วยไวน์แดง ชื่อ Geisha’s Kiss มาจากสีของค็อกเทลที่เลเยอร์ล่างจะเป็นสีใส เปรียบเหมือนใบหน้าของเกอิชาที่มักจะทาหน้าขาว ส่วนเลเยอร์บนจะเป็นสีแดงเปรียบเหมือนริมฝีปากของเธอ

แก้วที่เราประทับใจที่สุดคือ Mali-Malai / มะลิ-มาลัย (370 บาท) ค็อกเทลใสๆ ชื่อไทยๆ ที่ได้แรงบันดาลมาจากพวงมาลัยดอกมะลิหอมๆ แก้วนี้ใช้รัมเป็นเบส ตามด้วย clarified milk punch เพิ่มความหอมด้วย edible perfume กลิ่นมะลิ และเสิร์ฟมาพร้อมขนมกลีบลำดวน เหตุผลที่เราประทับใจแก้วนี้ก็เพราะสามารถบาลานซ์ระหว่างความเปรี้ยวและหวานของดริงก์ได้ดี และพอกินขนมกลีบลำดวนแล้วจิบตามบอดี้ของเครื่องดื่มจะแน่นขึ้นบวกกับรสชาติก็จะหวานละมุนขึ้น แก้วนี้จะเสิร์ฟจำกัดแค่วันละไม่เกิน 20 แก้วเท่านั้น เพราะต้องใช้เวลาในการเตรียมส่วนผสมค่อนข้างนาน

แต่ถ้าอยากลองค็อกเทลที่ represent คาแร็กเตอร์ของร้านได้ดีที่สุดก็ต้องเป็น Kōdō (390 บาท) ค็อกเทลแนวสปิริตฟอร์เวิร์ดที่สตรงที่สุดของร้าน ทวิสต์มาจาก Negroni โดยนำจินไปอินฟิวส์กับไม้หอม Palo Santo นาน 2 ชั่วโมง และจุดไฟรมควันไม้หอมก่อนเสิร์ฟเพื่อเพิ่มความสโม้กกี้

kōdō อยู่ระหว่างซอยจุฬาฯ 10 และ 12 (ฝั่งตรงข้าม) ถนนบรรทัดทอง ร้านเปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 - 00.00 น.

รายละเอียด

ที่อยู่
1372, 3rd Floor, Wangmai, Pathum Wan, Bangkok
กรุงเทพฯ
10330
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ