[title]
ด้วยความที่กำลังมองหาบาร์แบบญี่ปุ่นขนานแท้ ประเภทที่ว่าลึกลับนิดๆ และมีแต่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็นส่วนมาก ก็ทำให้เราเอ่ยปากขอลายแทงกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เปิดเผยข้อมูลกับเราแค่ว่า "เข้าซอยสุขุมวิท 43 สัก 50 เมตร เลี้ยวซ้ายที่ซอยแรก และเมื่อเข้าซอยมาได้สัก 20 เมตร ก็จะเห็นผนังปูนพร้อมสัญลักษณ์คล้ายรูปตัว 'ฮ' ปรากฏอยู่บนผนัง นั่นล่ะร้าน Hanna" เมื่อเราเอ่ยปากขอ แน่นอนว่าเพื่อนก็จัดให้ลึกลับจริงๆที่บอกว่าเป็นบาร์สไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้เพราะลูกค้าทุกคนต่างก็ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมของบาร์ญี่ปุ่นด้วยการเสียค่าธรรมเนียมที่นั่งราคา 200 บาท อันเป็นธรรมเนียมที่พบได้ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อรับทราบเงื่อนไขแล้วทางร้านก็จะนำ Otoshi ประกอบไปด้วยของว่างจำนวน 3 รายการที่เป็นเมนูหมุนเวียนมาเสิร์ฟ สำหรับรายการ Otoshi ประจำวันนั้น ได้แก่ ถั่วงอกหัวโตคลุกน้ำมันงารสชาติสดชื่น มันฝรั่งบดราดซอสไข่ปลารสชาติเข้มข้น และมะเขือม่วงต้มซีอิ๊วญี่ปุ่นรสชาติอบอุ่น อย่างที่บอกไปว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นก็ทำให้เมนูอาหารของที่นี่เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน แต่ก็อย่ากังวลไปเพราะมีพนักงานชาวไทยคอยบอกรายการอาหารทีละอย่าง ด้วยความที่เป็นบาร์สังสรรค์หลังเลิกงาน เมนูอาหารจึงเป็นกับแกล้มเสียส่วนใหญ่ เคยมีคนแนะนำว่าหากไม่แน่ใจว่าจะสั่งอะไรให้สั่งอาหารที่มีชื่อของที่ร้านไว้ก่อน เพราะมั่นใจได้ว่าถึงอย่างไรเสียก็เป็นเมนูแนะนำ Hanna Cheese แครกเกอร์เสิร์ฟพร้อมครีมชีส ลูกฟิกซ์ แยมส้ม และน้ำผึ้ง เมนูนี้น่าจะถูกใจสาวๆ โดยเฉพาะเรานั้นก็ถึงกับตักครีมชีสเปล่าๆ ลองชิมดูเสียด้วยซ้ำ สปาเกตตีเมนไทโกะ เส้นลวกสุกกำลังดีคลุกเคล้าด้วยไข่ปลาเคี้ยวเพลินๆ หอมใบชิโสะและสาหร่ายหั่นฝอย สำหรับเครื่องดื่มนั้นเจ้าของร้านแนะนำว่าให้ลองสั่ง Jyozen Mizuno Gotoshi สาเกญี่ปุ่นที่มีรสชาติดื่มง่าย แต่หากเป็นลูกค้าขาประจำนั้นมักจะสั่งเหล้าเป็นขวด หากดื่มไม่หมดก็ฝากไว้ที่ร้าน ฟังดูแล้วอาจไม่ต่างกับธรรมเนียมของชาวไทย แต่พิเศษกว่าก็ตรงที่ลูกค้าจะนำพวงกุญแจมาคล้องไว้ที่คอขวดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เวลามาดื่มครั้งถัดไปก็ทำให้มองหาและหยิบได้ง่าย นั่นก็เป็นเหตุผลให้เราหมายมั่นว่า คราวหน้าจะต้องหาซื้อพวงกุญแจมาคล้องกับเขาบ้างให้ได้ ก็เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามยังไงล่ะ!