ขึ้นชื่อว่าเป็นบาร์ ความตั้งใจของทุกคนคือต้องไปนั่งจิบค็อกเทลที่หน้าบาร์กันแน่นอนอยู่แล้ว แต่สำหรับบาร์เปิดใหม่ (ในโลเคชั่นเดิมชั้นล่างของร้านอาหาร Mia) อย่าง Behind the Curtain พร้อมให้คุณเปลี่ยนจริตการจิบค็อกเทลอย่างเดียว เป็นการแพร์ริ่งเข้ากับขนมสไตล์โอมากาเสะ ที่จะเสริ์ฟในบาร์เพียง 6 ที่นั่งต่อรอบเท่านั้น
โดยค็อกเทลจะเป็นฝีมือของบาร์เทนเดอร์และบาร์เมเนเจอร์คนใหม่ มาร์ก เปเรซ โรดิเกซ (Marc Perez Rodriguez) และขนมจะเป็นฝีมือของเชฟมิเชล โก (Michelle Goh) แห่งร้าน MIA นั่นเอง ทั้งคู่หยิบแรงบันดาลใจจากทั้งความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชีย ถ่ายทอดออกมาเป็นขนมและเครื่องดื่มหน้าตาเรียบง่ายแต่อร่อย
เมนูที่ Behind the Curtain จะเสิร์ฟในรูปแบบ 5 คอร์สแบบ Omakase Dessert เริ่มตั้งแต่จานแรกจะเป็นมะม่วงเชอร์เบตที่มีอิกุระมาเบรกรสเปรี้ยวเสริมรสเค็มๆ มันๆ จิบคู่กับค็อกเทลแนวสดชื่นเบสด้วยคอร์เดียลมะม่วงท็อปด้วยแชมเปญ ต่อด้วยจานที่สองผสมผสานกลิ่นอายความเป็นเอเชียนลงไป ซึ่งเชฟมิเชลเล่าว่าเธอได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่อยู่ออสเตรเลียและได้เห็นการผสมผสานของอาหารเอเชียนเข้ากับชาติอื่นๆ เลยเกิดเป็นการผสมผสานของครีมใบเตยและลิ้นจี่เชอร์เบต โรยหน้าด้วยเกล็ดน้ำแข็งเนื้อบางเบาจากมะพร้าว เคี้ยวไปจะได้เท็กเจอร์กรอบๆ จากข้าวพองด้วย จานนี้เราว่าทำได้ดีมากจนไม่อยากให้หมด ยิ่งจิบคู่กับค็อกเทลที่เบสด้วยโซจูยิ่งเข้ากัน
ส่วนจานที่สามมีส่วนผสมของไวน์แดงจากองุ่นมอสคาโต้ทั้งขนมและค็อกเทล และจานที่สี่จะมีช็อกโกแลตเข้ามาเป็นพระเอก ตัดรสกับค็อกเทลแนวทรอปิคอลสดชื่น ทำให้สองจานนี้มีการไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นมา ก่อนจะปิดท้ายด้วยขนมแบบอุ่นที่ต้องใช้เวลาเกือบสิบนาทีให้วานิลลาซูเฟเซ็ตตัวอย่างสวยงาม ก่อนเสิร์ฟร้านจะขูดแบล็คทรัฟเฟิลให้แบบพูนๆ กินคู่กับค็อกเทลสีใสแต่แรงเอาเรื่องเพราะเบสด้วยเมซคาล
Omakase Dessert 5 คอร์สราคา 3,200++ บาทต่อคน รับรอบละ 6 ที่เท่านั้น (วันพฤหัสบดี-เสาร์ 18.00-21.00 น.) หรือใครที่อยากนั่งกินขนมและของกินเล่นเมนูอื่นๆ กับค็อกเทลอีกหลายตัวก็สามารถมานั่งที่บาร์ส่วนๆ หลังม่านกำมะหยี่สีเขียวนี้ได้