[title]
ตัวร้านหลบซ่อนอยู่ด้านหลังประตูไม้โดยไม่ได้มีป้ายชื่ออะไรนอกจากสายไฟของการไฟฟ้าที่ระโยงระยางอยู่ริมถนน ขณะที่ด้านในเป็นโถงทางเดินแคบๆ ติดเคาน์เตอร์บาร์ไม้ที่นำทางเราไปสู่โซนที่นั่งหลักขนาดกว้างขวาง ซึ่งมีเปียโนหลังใหญ่กับกลองชุดจัดวางไว้สำหรับการแสดงดนตรีแจ๊สสดในทุกคืนวันพุธถึงวันอาทิตย์ โดยที่ชั้นบนนั้นยังเป็นซิการ์บาร์และช็อปแผ่นเสียงไวนิลของร้าน Recoroom อีกด้วย
ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ ผู้อยู่เบื้องหลังบาร์ลับๆ ในย่านเมืองเก่าอย่าง Ku Bar คือคนที่มารับหน้าที่ดูแลดริงก์ทั้งหมดของที่นี่ โดยเขาตั้งใจให้ที่ร้านไม่มีค็อกเทลซิกเนเจอร์ และสอดแทรกความพิเศษบางอย่างลงไปในคลาสสิกค็อกเทลแต่ละแก้วด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ในบ้านเราหรือเหล้าโฮมเมดแทนที่ส่วนผสมทั่วไปแทน "เพราะว่าผมต้องการจะให้ลูกค้าเดินเข้ามาในบาร์แล้วสามารถสั่งคลาสสิกค็อกเทลที่พวกเขาชอบอย่าง จินโทนิก หรือ วิสกี้โซดา ได้เลย" ก้องกล่าว
เพื่อให้เห็นภาพเราลองสั่ง Sazerac (420 บาท) ค็อกเทลที่เหล้า absinthe ถูกแทนที่ด้วยใบโปร่งฟ้า พืชสมุนไพรที่มักจะใช้ในการทำลาบของภาคเหนือ ซึ่งมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับเหล้า absinthe อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังให้ความสดชื่นในสัมผัสสุดท้ายซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่นๆ กับอีกแก้วยอดนิยมอย่าง piña colada (380 บาท) ที่ถูกรีครีเอตขึ้นมาใหม่ให้ดื่มง่ายขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะพร้าวสดและเหล้ารมควันกลิ่นมะพร้าวโฮมเมด
หรือจะเป็นค็อกเทลแก้วง่ายๆ อย่าง Screwdriver (380 บาท) ที่โดยปกติแล้วจะถูกชงขึ้นจากวอดก้าและน้ำส้มธรรมดาๆ ก็ได้รับการดัดแปลงให้อยู่ในลักษณะของน้ำแข็งเกล็ดหิมะ พร้อมด้วยเท็กเจอร์ของส้มให้เคี้ยวเพลินๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี happy hour ในช่วงเวลา 18.00-20.00 น. ที่คุณสามารถสั่งค็อกเทลอะไรก็ได้ในราคาแก้วละ 300 บาทเท่านั้น ดังนั้นถ้าใครกำลังมองหาบาร์ที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก แถมยังมีดนตรีแจ๊สรื่นหูให้ฟังล่ะก็ ลองแวะมาที่นี่ดูก็ได้นะ
แปล Wissuta Ploypetch