10 Music Bars นั่งชิลและดื่มด่ำเสียงดนตรี

พื้นที่แฮงเอาต์แห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 36 ที่เหมาะกับการชวนเพื่อนหลบความวุ่นวายไปนั่งชิล จิบเครื่องดื่มเคล้าเสียงเพลงจากคอลเล็กชันแผ่นเสียงที่ทางร้านคัดเลือกมาแล้วว่าดีจริง แถมเปิดให้ฟังทั้งอัลบั้มตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้าย เพราะอยากให้ทุกเพลงถูกฟังสมกับที่ศิลปินทุ่มเทแรงกายแรงใจจนออกมาเป็นอัลบั้มเต็ม

ร้านยังอยู่ในช่วง soft opening แวะไปชิมลางได้ทุกวันพุธ - เสาร์ 18.00 - 23.00 น.

บาร์แจ๊สในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1953 ด้วยความที่เป็นบาร์ในโรงแรมริมแม่น้ำจึงเป็นที่นิยมของนักเดินทางและนักธุรกิจในยุคนั้น ก่อนจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ จนต้องย้ายร้านจากฝั่ง Authors’ Wing มาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันตั้งแต่ปี 2014 เพื่อรองรับลูกค้า ปัจจุบันบริหารงานโดยบาร์เทนเดอร์ชาวอังกฤษ Jamie Rhind และเพิ่งคว้าอันดับที่ 35 บาร์ที่ดีที่สุดในโลกจาก World's 50 Best Bars 2020 และอันดับที่ 11 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียจาก Asia's 50 Best Bars 2021

ที่นี่มีศิลปินมาเล่นดนตรีแจ๊สให้ฟังสดๆ ทุกวันอังคาร-วันเสาร์ ตั้งแต่ 20.00 - 22.45 น. เครื่องดื่มที่เราอยากแนะนำให้สั่งมาจิบเคล้ากับเสียงเพลงเพราะ คือค็อกเทลซิกเนอเจอร์ที่ชูความเป็นไทยโดยมาเล่นกับองค์ประกอบของภูมิประเทศในไทยแทนกับคอนเซ็ปต์ Elements ซึ่งประกอบด้วย Rainforest, Mountains, Island, River และ City

Bamboo Bar เปิดทุกวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี 17.00 - 01.00 น., ศุกร์ - เสาร์ 17.00 - 02.00 น.

บาร์แจ๊สและบลูส์แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพญาไท แห่งนี้เป็นแหล่งรวมตัวของผู้ที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊สมานานหลายทศวรรษ แม้แต่ศิลปินชื่อดังระดับตำนานอย่าง T-Bone และ เศกพล อุ่นสำราญ หรือ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน ก็มาเล่นอยู่ที่นี่เป็นประจำ การตกแต่งด้วยอิฐแดง ไม้มะฮอกกานี ม่านกำมะหยี่สีแดง และแสงสลัวๆ ทำให้ภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นยุโรปย้อนยุค

Saxophone มีดนตรีแจ๊สสดให้ฟังทุกวัน วันละ 3 รอบ รอบแรกเริ่มตั้งแต่ 19.30 น. และรอบสุดท้ายจบที่ 01.30 น. ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 18.00 - 02.00 น.

บาร์ในย่านเจริญกรุงที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง Central: The Original Store พื้นที่ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกคือ Live Room สำหรับโชว์ดนตรีสดโดยนักดนตรีแจ๊สมืออาชีพ ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี ตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป ขยับขึ้นมาบนชั้น 2 คือ Audiophile Bar ที่เปลี่ยนจากดนตรีสดมาเป็นการบรรเลงเพลงจากแผ่นเสียงแทน ทุกๆ วันพุธ ตั้งแต่เวลา 21.30 น. เป็นต้นไปเช่นกัน

Siwilai Sound Club เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป

ตึก 5 ชั้นสุดคลาสสิกที่ปากซอยเจริญกรุง 31 ที่ข้างในจะมีทั้งร้านอาหารและบาร์ในแบบ East-meets-West ที่เน้นบริการเครื่องดื่มควบคู่กับเสียงดนตรีแจ๊สเพราะๆ มีคอนเสิร์ตศิลปินแจ๊สระดับ top class ให้ดูทุกวันพฤหัสบดี - เสาร์ ตั้งแต่ 20.00 - 23.00 น.

Foojohn เปิดทุกวันพฤหัสบดี - เสาร์ 19.00 - 23.00 น. และวันอาทิตย์ 17.00 - 22.00 น.

บาร์บรรยากาศสบายๆ ที่เหมาะกับการมานั่งผ่อนคลายระหว่างดื่มค็อกเทลและฟังดนตรีสดเพราะๆ ที่นี่เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจในเรื่องบาร์ของกลุ่มเพื่อน 7 คนจากวงการภาพยนตร์และโฆษณา ก่อนยึดเอาพื้นที่บนชั้น 5 ของตึกเก่าย่านพร้อมพงษ์ทำเป็นบาร์บรรยากาศสบายๆ ที่ใครเบื่อความวุ่นวายในตัวเมืองก็สามารถหลบขึ้นมาพักผ่อน นั่งดื่มค็อกเทลและเสพดนตรีแจ๊สที่มีบรรเลงตลอดค่ำคืนได้ทุกเมื่อ

Mutual Bar อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 24 เปิดทุกวัน 16.00 - 23.00 น.

บาร์ประยุกต์แบบไทยที่มาพร้อมชื่อร้านเก๋ๆ อย่าง “เทพ” สื่อความหมายถึงกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งความรุ่งโรจน์เรืองรอง พร้อมอีกความหมายที่สื่อถึงความชาญฉลาดสุดยอดฝีมือขั้นเทพ ภายใต้สโลแกน “เสพสุขสมัยไทยอย่างเทพฯ” ท่ามกลางบรรยากาศแบบไทยย้อนยุค

เทพบาร์ตั้งอยู่ในตึกแถวโบราณในย่านเก่าที่ถูกนำมาปรับปรุงให้เป็นบาร์ 2 ชั้น พร้อมโชว์เอกลักษณ์ความเป็นไทยของเครื่องดนตรีไทยที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า และผนังปูนเปลือยที่โดดเด่นด้วยสีทองคำเปลว อีกทั้งบรรยากาศของแสงไฟนวลตาที่ห้อมล้อมภายในร้านสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นมากขึ้น ส่วนชั้นบนมีโต๊ะตัวกลม และหมอนอิงนุ่มๆ แบบไทย ให้คุณนั่งพิงอย่างสบายอารมณ์พร้อมเคล้าเสียงดนตรีไทย

เทพบาร์ เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 18.00 น. เป็นต้นไป และ เสาร์ - อาทิตย์ 17.00 น. เป็นต้นไป

สตูดิโอลำ แหล่งแฮงเอาต์บรรยากาศไทยวินเทจในซอยสุขุมวิท 51 ที่เกิดมาเพื่อซัปพอร์ตดนตรีแนวใหม่ๆ ที่อยู่นอกกระแส มาที่นี่ทุกคนเลยจะได้ฟังเพลงหลากหลายแนว ตั้งแต่ลูกทุ่ง หมอลำ ไปจนถึงเพลงแนวทดลองไม่จำกัดสัญชาติ เปิดแผ่นเสียงทุกวันพฤหัสบดี - เสาร์

Studio Lam เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ 17.00 - 02.00 น.

บาร์แจ๊สสุดหรูหราที่อยู่ใน Velaa Sindhorn Village ถนนหลังสวน ตกแต่งในคอนเซ็ปต์โรงละคร โอ่อ่าราวกับหลุดมาจากยุค 20's อย่างไรอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟระย้าที่ระยิบระยับไปด้วยเม็ดคริสตัลจำนวนมากที่ถูกแขวนไว้กลางห้อง เข้ากันได้ดีกับเบาะที่นั่งกำมะหยี่สีแดงสูงลดหลั่นกันคล้ายกับอัฒจันทร์ในโรงละคร

มีฉากไม้สีเข้มกั้นระหว่างกันเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้แขกที่จะเข้ามาเยี่ยมเยียนโรงละครแห่งนี้ได้แบบพอดีๆ ไม่บดบังการรับชมการแสดงบนเวทีขนาดย่อม ซึ่งจะมีทั้งดนตรีแจ๊สสดจังหวะชวนโยก ดีเจ และการแสดงอีกหลายรูปแบบผลัดเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ

Crimson Room เปิดทุกวัน 17.00 - 23.00 น.